icon-search
icon-search

อายุเกิน 30 - 35 ต้องอ่าน การใช้ฮอร์โมนแบบ Anti Aging

อายุเกิน 30 - 35 ต้องอ่าน การใช้ฮอร์โมนแบบ Anti Aging

อายุเกิน 30 - 35 ต้องอ่าน การใช้ฮอร์โมนแบบ Anti Aging


ช่วงนี้น่ะครับ ก็ ผู้ชายหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ก็คือ "ไม่อยากแก่" นั่นเอง

แน่นอน มาดป๋าๆ กล้ามใหญ่ๆ หล่อชิบหาย แต่โดยธรรมชาติเนี่ย พออายุเกิน 35 อย่างที่รู้กัน ฮอร์โมนมันเริ่มถอยละ มันไม่เหมือนวัยรุ่น โชคดีที่เดี๊ยวนี้ Testosterone และฮอร์โมนมากมายให้ใช้


 โอเค เข้าเรื่องเลย

ในการใช้แบบ Anti Aging มันจะต่างจาก Bodybuilding และ Sculping (คือคัทก่อนแข่ง) มากๆ มากพอสมควร คุณต้องเข้าใจก่อนว่ามันต่างกันอย่างไร


 Anti Aging ก็คือการ "สู้กับการแก่ตัว" ทีนี้เราจะสู้ยังไง


 เราสู้แบบนี้ พอผู้ชายอายุมาก มันมีฮอร์โมนหลัก 2 อย่างถดถอย

  1. Testosterone < อันนี้มีบทความบอกละเอียด
  2. Growth Hormone < ขาดตัวนี้การซ่อมแซมตัวเองช้าลง ริ้วรอยมากขึ้น

คุณก็แค่เติม 2 ตัวนี้เข้าไป ก็แค่นั้นเอง ตัวอื่นไม่ต้องไปใช้

ปั๊ดโท่บางคน Anti Aging Test E 600 mg/week + Primo 600 mg/week อันนี้มันไม่ Anti Aging ละครับ คุณไปอย่างอื่นแล้ว

462542717_967435772083308_2191202574684750086_n copy

การจะ Anti Aging มีเงื่อนไข 1 ข้อที่สำคัญที่สุดคือ "สุขภาพคุณต้องเต็มร้อย"

ก็คือต้องตรวจเลือดก่อน ถ้าใครมีตังนะ ผมแนะนำเช็คสุขภาพชุดใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาลชั้นนำ อาจจะซักหมื่นบาท ถ้าไม่มีโรคหัวใจ เบาหวาน มะเร็ง วิ่งดูการทำงานของหัวใจ ทุกอย่างดีหมด ก็ใช้ได้เลย เมื่อร่างกายปกติคุณเสริมฮอร์โมนที่ขาดไป มันก็สวรรค์แล้ว ใครไม่มีครอบครัวหาเด็กๆ เลี้ยงได้เลยครับ เด็กกรี๊ด ป๊าขา ป๊าขา ป๊าดุจังเลยค่ะ รับประกัน 55555


 ในทางกลับกันนะ ถ้าร่างกายไม่ปกติ แล้วดันทุรังใช้ของเยอะๆ ใช้ฮอร์โมนมั่วๆ ผลมันอาจจะตรงข้ามกันเลยนะครับเพราะว่าฮอร์โมนบางตัวมันจะหนักหัวใจ เช่น Trenbolone มันจะทำให้ความเสี่ยงสูงขึ้น ยิ่งบางคนไปตีบวกยาเม็ด ตับอาจจะแย่อยู่แล้ว ก็จะแย่ลงนะครับ ถ้าออกมาแบบนี้มันไม่ใช่แก่ช้าแล้ว แบบนี้แก่ไวกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะเรื่องหัวใจนี่สำคัญมากๆ นะ ในไทยมีคนตายเพราะโรคหัวใจชั่วโมงละ 2 คน นะครับ โรคนี้มักจะไม่ค่อยมีอาการ มีทีนึงก็ไปเลย แต่เดี๊ยวนี้มีวิธีตรวจเยอะมาก


 พอเราตัดสินใจจะใช้เนี่ย


 สูตรมันจะตายตัวนะครับคือ ฉีด Testosterone ถ้ามีงบก็แน่นอน + Gwoth Hormone นี่ดีมากๆแล้วอาจจะมียาอื่นนิดหน่อยถ้าคุณเช็คฮอร์โมนอีกรอบแล้วเอสโตรเจนหรืออะไรมันไม่พอดี แต่ส่วนมากมันจะพอดี เพราะเรื่อง Testosterone ทดแทน มีการศึกษามากกว่า 20 ปีแล้ว มันก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานเดียวกัน (ถ้าไม่มั่วนะ)

462562803_967427552069830_1736470902233443818_n copy

462549121_548383698079483_8849584240092429485_n copy

โดสมันก็เริ่มต้นประมาณ 200 - 300 มิลลิกรัม ต่อ 2 - 3 สัปดาห์ แต่ถ้าเล่นกล้ามด้วยผมก็จะแนะนำ 600mg ต่อสัปดาห์ เพราะมันเป็นโดสมาตรฐานของคนที่ต้องการกล้ามเนื้อ ส่วนพวกตัวอื่น เช่น อีคิว พรีโม หรือกระทั่งอนาวา ไว้ตอนที่คุณรู้สึกสนุกการสายนี้ก่อน มันไม่จำเป็น


อ่ะก็แค่นี้แหละ Anti Aging ไปหาหมอแพงๆ ก็ไม่ต่างจากนี้ แต่ไปก็ได้นะครับ สบายใจดี อะไรจ่ายไหวก็จ่ายไปเถอะ เพราะว่าหมอ Anti Aging เฉพาะทางเนี่ยเค้าก็ต้องมีดีไง แต่ถ้าจ่ายไม่ไหว เช่นโกรทฮอร์โมนงี้ โรงบาลขาย IU ละ 700 ก็บอกหมอเค้าไปตรงๆ ว่าผมขอไปซื้อข้างนอก ก็มาซื้อผมได้ ของแบบดีๆ ไอยูละ 60 - 80 บาท ถ้าแบบโรงพยาบาลเลยก็ประมาณ 150 บาท แล้วแต่แหล่งผลิตและยี่ห้อ


ถ้าใครมีเงินขึ้นไปอีกนะ จ้าง Trainer ที่มีความรู้เรื่องศาสตร์การเคลื่อนไหว เค้าเรียกว่าอะไรผมจำไม่ได้แล้ว แล้วก็ไปคลีนิกกายภาพด้วยครับ เช็คซักหน่อยว่าตรงไหนมีปัญหาบ้างแล้วไล่แก้ พออายุเท่านี้เนี่ย เราก็ทำงานมาเยอะครับ ร่างกายมันไม่เหมือนวัยรุ่น ไม่ค่อยสมบูรณ์หรอก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใครทำงานนั่งโต๊ะ ส่วนมากมันจะตึงบ่าตึงไหล่ข้างนึง อะไรประมาณนี้ เราต้องแก้ให้ตรงจุด รวมไปถึงการเวท ต้องไม่ให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ไมอย่างนั้นมันผิดจุดประสงค์


 แต่ถ้างบไม่เยอะและประหยัด คุณทำตามนี้

  1. ตรวจเลือดที่คลีนิกเทคนิคการแพทย์ เอาแพคเกจ Standard น่าจะพันกว่าบาท
  2. แอลไลน์แล้วส่งผลตรวจให้ผม บอกงบด้วย
  3. ผมจะแนะนำให้ 
  4. คลีนิกการภาพยังไงก็ควรจะไปครับ แต่ให้จำและฝึกทำ เรื่องเวทซ้อมเองเอา
  5. เรื่อง Anti Aging มีเเนะนำให้ครบวงจร สินค้าพร้อมส่ง

ตามนี้ครับ ง่ายๆ

5e9407f6b870090cb3aa6c90_800x0xc



หน้าที่แล้ว หน้าถัดไป

ตะกร้าสินค้าของคุณว่างว่างเปล่า
เลือกซื้อสินค้าต่อ