TIRZEPATIDE
ยาตัวใหม่ที่น่าจับตามองในการจัดการน้ำหนักและเบาหวาน
- Tirzepatide เป็นยาชนิดใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการแพทย์ เนื่องจากมีศักยภาพในการช่วยลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่ายาในกลุ่มเดียวกัน ยาตัวนี้ทำงานโดยเลียนแบบฮอร์โมนสองชนิดในร่างกาย คือ GLP-1 และ GIP ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความอยากอาหารและการเผาผลาญน้ำตาล
ทำไม Tirzepatide ถึงพิเศษ?
- ออกฤทธิ์สองทาง: ต่างจากยาในกลุ่ม GLP-1 ตัวอื่นๆ ที่ออกฤทธิ์เพียงตัวเดียว Tirzepatide ออกฤทธิ์ทั้ง GLP-1 และ GIP ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลได้มากขึ้น
- ลดน้ำหนักได้มาก: จากการศึกษาพบว่า Tirzepatide สามารถช่วยให้ผู้ป่วยลดน้ำหนักได้มากถึง 20% ภายในระยะเวลา 1 ปี
- ปรับปรุงค่าระดับน้ำตาลในเลือด: ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 และผู้ที่มีภาวะดื้ออินซูลิน
- ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด: การลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดกลไกการทำงานของ Tirzeepatide
- ลดความอยากอาหาร: ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดการรับประทานอาหาร
- เพิ่มการเผาผลาญ: ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
- กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน: ช่วยให้นำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้ดีขึ้น
- ชะลอการหลั่งกลูคากอน: ฮอร์โมนที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
- ความแตกต่างระหว่าง Tirzepatide และ Semaglutide
ทั้ง Tirzepatide และ Semaglutide เป็นยารักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และใช้ในการจัดการน้ำหนัก แต่มีกลไกการทำงานที่แตกต่างกันเล็กน้อย
Tirzepatide:
- กระตุ้น 2 ตัวรับ: Tirzepatide ทำงานโดยการกระตุ้นทั้งตัวรับ GLP-1 และ GIP ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความอยากอาหาร ทำให้มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักได้ดีกว่า Semaglutide ลดน้ำหนักได้มากกว่า: จากการศึกษาพบว่า Tirzepatide สามารถช่วยลดน้ำหนักได้มากกว่า Semaglutide โดยเฉลี่ยประมาณ 5-10% ปรับปรุงการทำงานของตับอ่อน: นอกจากลดน้ำหนักแล้ว Tirzepatide ยังช่วยปรับปรุงการทำงานของตับอ่อนและความไวต่ออินซูลิน
Semaglutide:
- กระตุ้นตัวรับ GLP-1: Semaglutide ทำงานโดยการกระตุ้นตัวรับ GLP-1 เพียงอย่างเดียวลดน้ำหนักได้ดี: แม้จะไม่เท่า Tirzepatide แต่ Semaglutide ก็ยังสามารถช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ อนุมัติใช้ก่อน: Semaglutide ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในการรักษาโรคอ้วนมาก่อน Tirzepatide
ข้อควรระวัง:
ทั้ง Tirzepatide และ Semaglutide มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก ปวดท้อง และอื่นๆ
ประโยชน์ของ Tirzepatide ต่อมวลกล้ามเนื้อ และไขมันในเลือด
SURMOUNT-1 เป็นการศึกษาประสิทธิภาพการลดน้ำหนักของยา Tirzepatde เปรียบเทียบกับยาหลอกในช่วง 72 สัปดาห์ ในผู้ป่วยน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน นอกจากนี้ ยังศึกษารวมถึงการเปลี่ยนแปลงของไขมัน มวลน้ำหนักตัวที่ไม่รวมไขมัน (lean mass) ความไวต่ออินซูลิน และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
Tirzepatide ออกฤทธิ์ทั้งตัวรับของ Glucagonlike peptide-1(GLP-1) และ glucose-dependent insulinotropic polypepetide โดยได้รับการอนุมัติให้เป็นยารักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จากคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) เมื่อพฤษภาคม 2022 แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในผู้ที่น้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน
มีผลการศึกษาการวิเคราะห์อภิมาน (Meta-analysis) 6 การศึกษาของยา Tirzepatide ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า ยาสามารถลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ แอลดีแอล (LDL cholesterol) และวีแอลดีแอล (VLDL cholesterol) ได้
SURMOUNT-1 ศึกษาผลของยา Tirzepatide เปรียบเทียบกับยาหลอกในผู้ที่อ้วน หรือน้ำหนักเกินร่วมกับมีภาวะแทรกซ้อนที่สัมพันธ์กับการมีน้ำหนักเกินอย่างน้อย 1 ภาวะ จำนวน 2,539 คน เป็นระยะเวลา 72 สัปดาห์ พบว่า กลุ่มที่ได้รับ Tirzepatide สามารถลดน้ำหนักจากพื้นฐานเดิมได้ร้อยละ 15 – 21 เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอกร้อยละ 3 และร้อยละของผู้เข้าร่วมวิจัยที่ลดน้ำหนักได้อย่างน้อยร้อยละ 5 เท่ากับ ร้อยละ 85 – 91 เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอกร้อยละ 35 นอกจากนี้ ยังพบว่า กลุ่มที่ได้รับ Tirzepatide สามารถลดมวลไขมัน (fat mass) จากร้อยละ 46.2 ของมวลร่างกายรวมทั้งหมด (total body mass) เป็นร้อยละ 38.5 หลังจาก 72 สัปดาห์ เปรียบเทียบกับกลุ่มได้รับยาหลอก ซึ่งลดลงจากร้อยละ 46.8 เป็น 44.7 ในขณะที่มวลน้ำหนักตัวที่ไม่รวมไขมันในกลุ่มได้รับ Tirzepatide เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 51 เป็น 58.1 หลังจาก 72 สัปดาห์ โดยผลการศึกษานี้เมื่อนำมาคำนวณมวลไขมันต่อมวลน้ำหนักตัวที่ไม่รวมไขมัน (fat mass to lean mass ratio) พบว่า กลุ่มที่ได้รับ Tirzepatide มีสัดส่วนลดลงจาก 0.94 เป็น 0.64 หลังจาก 72 สัปดาห์